#1 เรียนต่อญี่ปุ่น ดินแดนอาทิตย์อุทัยแห่งการเรียนรู้

เรียนต่อญี่ปุ่น

เรียนต่อญี่ปุ่น

การที่คนไทยเลือก เรียนต่อญี่ปุ่น นั้นก็เป็นเพราะประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ใครๆต่างใฝ่ฝันที่จะได้ไปเยี่ยมชมสักครั้ง เพราะทัศนียภาพที่สวยงาม วัฒนธรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ทั้งที่นี่ยังขึ้นชื่อว่า ผู้คนมีระเบียบวินัยกันมาก มีความรับผิดชอบต่อสังคมสูง ระบบการบริหารปกครอง ระบบการศึกษา ระบบสาธารณูปโภค และอื่นๆนับได้ว่ามีคุณภาพอันดับต้นๆของโลกเลยทีเดียว ทั้งปัจจุบันนี้ภาษาญี่ปุ่นยังมีอิทธิพลมากขึ้น และการทำงานเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่นก็มีค่าตอบแทนที่ดี ทำให้มีคนไทยจำนวนมากหันมาสนใจการเรียนต่อญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นคอร์สภาษา หรือระดับปริญญา ดังนั้นหากคุณคือคนหนึ่งที่สนใจในการศึกษาต่อที่ประเทศแห่งนี้ คุณอาจสนใจในข้อมูลที่จะกล่าวถึงนี้ก็เป็นได้

ถ้าจะไป เรียนต่อญี่ปุ่น จำเป็นต้องรู้ภาษาญี่ปุ่นหรือไม่?

สถาบันการศึกษาระดับสูงของญี่ปุ่นโดยทั่วไป การเรียนการสอนจะเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด ดังนั้นผู้ที่จะไปศึกษาต่อ ควรผ่านการทดสอบวัดระดับภาษา ระดับ N1 หรือ N2 หรือก็คือผ่านการเรียนภาษาญี่ปุ่นมาแล้วมากกว่า 600-900 ชั่วโมง ซึ่งหากเรียนในคอร์สภาษาของประเทศไทยก็อาจใช้เวลานาน หรือขึ้นอยู่กับการเรียนรู้ของแต่ละคน แต่ถ้าหากมาเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น อาจใช้เวลาเพียง 1-2 ปี เนื่องจากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต้องใช้ภาษาตลอดเวลา ทำให้ความพยายามเพิ่มมากขึ้น และการเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมมีมากกว่า

ระบบการศึกษาของที่นี่เป็นอย่างไร?

ระดับอุดมศึกษาของประเทศญี่ปุ่นเหมือนกับประเทศไทยคือ ต้องจบการศึกษาระดับมัธยมปลาย และจะมีแบ่งแยกสถาบันอุดมศึกษาทั้งภาครัฐ ท้องถิ่น เอกชน ดังนี้คือ
  1. วิทยาลัยเทคนิค
  2. วิทยาลัยอาชีวศึกษา
  3. วิทยาลัยหลักสูตรระยะสั้น
  4. มหาวิทยาลัย
  5. บัณฑิตวิทยาลัย
โดยทั่วไปปีการศึกษาของประเทศญี่ปุ่นจะเริ่มในเดือนเมษายน และสิ้นสุดในเดือนมีนาคมของปีถัดไป โดยจะแบ่งเป็นสองภาคการศึกษาดังเช่นที่ประเทศไทย และมีการปิดภาคเรียนทั้งหมดสามภาค คือภาคฤดูร้อน ภาคฤดูหนาว และภาคฤดูใบไม้ผลิ

จะศึกษาต่อญี่ปุ่นต้องทำอย่างไร?

ก่อนจะตัดสินใจสมัครเรียนต่อญี่ปุ่น คุณต้องรู้ใจของตัวเองก่อนว่า จุดประสงค์ในการเรียนต่อครั้งนี้ของคุณคืออะไร คุณอยากเรียนที่สถาบันไหน สาขาอะไร มีระยะเวลาในการเรียนเท่าไหร่ จบไปแล้วอาชีพที่คุณอยากทำต้องการทักษะในด้านใดบ้าง เป็นต้น นอกจากนั้นสิ่งสำคัญคือ คุณจะไปในช่วงไหน และมีค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไหร่ ค่ากิน ค่าที่พัก ค่าเทอม ค่าตั๋วเครื่องบิน วีซ่า และค่าอื่นๆ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในเบื้องต้น เช่น คุณต้องการเรียนเพื่อได้รับวุฒิการศึกษาสาขาใดสาขาหนึ่งที่เอามาต่อยอดการทำงานได้ ดังนั้นจึงเลือกการศึกษาระดับปริญญาตรี ในมหาวิทยาลัยโตเกียว โดยใช้ระยะเวลาทั้งหมด 4 ปี โดยเริ่มเปิดภาคการศึกษาในเดือนเมษายน มีค่าเทอม xx,xxx บาท (สามารถหาดูได้จากเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยนั้นๆ หรือเว็บของเอเจนซี่ ที่พักที่ใกล้กับมหาวิทยาลัยเป็นแฟลต มีค่าเช่ารายเดือนอยู่ที่ x,xxx บาทต่อเดือน นอกจากนั้นเป็นค่ากิน โดยประมาณเดือนละ x,xxx อย่างนี้เป็นต้น หรือไม่ว่าจะอยากใช้เวลาระยะหนึ่งในญี่ปุ่นเพื่อศึกษาวัฒนธรรม ภาษา และอื่นๆ หรือคุณต้องการฝึกอบรมวิชาชีพระยะสั้นเพื่อพัฒนาทักษะด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะก็ตาม

ยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกสถานศึกษาที่เหมาะสมอย่างไรดี?

  1. หากคุณยังคิดไม่ออกว่าการเรียนต่อญี่ปุ่นครั้งนี้คุณต้องการเรียนแบบไหน ที่ไหน ควรพิจารณาจาก 3 ข้อดังต่อไปนี้ สาขาที่อยากจะเรียน คุณชอบวิชาอะไร สาขาไหนที่คุณคิดว่าเรียนแล้วจะมีความสุข
  2. ขีดความสามารถของคุณเอง คุณคือคนที่รู้ดีที่สุดในส่วนนี้ ไม่ใช่ทุกมหาวิทยาลัยที่จะรับระดับผลการศึกษา หรือผลสอบที่ต่ำกว่ามาตรฐาน บางมหาวิทยาลัยมีเกณฑ์คะแนนที่จะรับเข้าศึกษาต่อ ดังนั้นควรหามหาวิทยาลัยที่เหมาะสมกับระดับความรู้ของตนเอง สมัครไว้หลายๆที่ก็เป็นเรื่องที่ดี
  3. อาชีพหรือการทำงานในอนาคต งานที่คุณอยากจะทำ บริษัทที่คุณใฝ่ฝันคือที่ไหน ต้องการวุฒิการศึกษาสาขาใด ต้องการบุคลากรที่มีทักษะด้านใดบ้าง เมื่อคุณรู้ขั้นตอนต่างๆในการตัดสินใจที่จะศึกษาต่อแล้ว คุณก็คงมีมหาวิทยาลัยในใจแล้วเช่นกัน แต่หากคุณรู้แค่เพียงสิ่งที่คุณอยากจะทำแต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกเรียนที่ไหนดี ลองพิจารณาองค์ประกอบดังต่อไปนี้

การเรียนในมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัยหลักสูตรระยะสั้น

มหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นนั้นใช้เวลาในการศึกษาเท่ากับที่ของประเทศไทย คือ 4 ปีและมีบางสาขาวิชาเช่น แพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ ที่ต้องใช้เวลาเรียนถึง 6 ปี ส่วนวิทยาลัยหลักสูตรระยะสั้น ใช้เวลา 2 ปี แต่บางหลักสูตรเช่นเทคนิคการแพทย์ หรือพยาบาล จะใช้เวลา 3 ปี ซึ่งในการเรียนมหาวิทยาลัยจะเน้นการเข้าเรียน ฟังบรรยาย และหนักไปทางทฤษฎี แต่วิทยาลัยหลักสูตรระยะสั้นจะเน้นไปทางปฏิบัติเสียมากกว่า

การเรียนในวิทยาลัยเทคนิค

วิทยาลัยเทคนิคหรือมีชื่อย่อว่า โคเซน เป็นหลักสูตรต่อเนื่อง 5 ปี หลังจากจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 จัดเป็นสถาบันการศึกษาระดับสูงเช่นเดียวกับมหาวิทยาลัย ซึ่งมีจุดเด่นคือเน้นสายวิชาชีพ เพื่อสร้างบุคลากรทางด้านเทคนิคที่สามารถปฏิบัติงานได้จริงและรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆได้ทันทีโดยเน้นการปฏิบัติและการทดลอง โดยส่วนมากจะเป็นสาขาทางด้านอุตสาหกรรม เมื่อผ่านหลักสูตร 5 ปีแล้วจะได้รับวุฒิการศึกษา อนุปริญญา ซึ่งถ้าเรียนต่อหลักสูตรเฉพาะทางระดับสูงต่ออีก 2 ปีก็จะได้รับวุฒิปริญญาตรี

วิทยาลัยอาชีวศึกษา

ปกติจะใช้ระยะเวลาเรียน 2 ปี แต่บางหลักสูตรก็อาจเป็น 3-4 ปี ซึ่งจะมุ่งเน้นด้านวิชาชีพเฉพาะสำหรับการไปประกอบวิชาชีพเฉพาะทางเช่นกัน เช่นนักออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟฟิค ผู้กำกับภาพยนตร์ โปรดิวเซอร์ สถาปนิก วิศวกร นักออกแบบ ฯลฯ เมื่อจบการศึกษาจะได้รับใบประกาศนียบัตรวิชาชีพ แต่มีเพียงจำนวนน้อยที่อาจไม่ได้รับ ควรศึกษาว่าต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้างในการได้รับใบประกาศนียบัตรนี้

   
จะเห็นได้ว่าการ เรียนต่อญี่ปุ่น ค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกับของประเทศไทยมาก นอกเสียจากว่าคุณภาพและโครงสร้างทางการศึกษาที่อาจจะดีกว่า ดังนั้นเมื่อคุณพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าต้องการเรียนอะไรในสถาบันการศึกษาแบบไหน ก็สามารถเริ่มต้นได้ทันที ยิ่งวางแผนเร็วก็ยิ่งจัดการสิ่งต่างๆได้ราบรื่นขึ้น
--> เรียนต่อเยอรมัน